ทฤษฎีเทวินิน (Thevenin’s Theorem)
กล่าวไว้ว่า
ในวงจรไฟฟ้าใดๆเราสามรถยุบหรือรวมวงจรให้อยู่ในรูปของแหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้า
(Voltage ) หนึ่งตัว และตัวต้านทานหนึ่งตัวได้ ซึ่งเรียกว่า
วงจรสมมูลของเทวินิน ( Thevenin Equivalent Circuit )
เมื่อ VTH = แรงดันเทเวนิน
RTH = ความต้านทานเทวินิน
รูปที่ 1 วงจรสมมูลของเทเวนิน ( Thevenin Equivalent Circuit )
หลักการทฤษฎีของเทวินิน ( Thevenin’s Theorem )
รูปที่ 2
จากวงจรรูปที่ 2 สามารถนำเอาหลักการทฤษฎีของเทเวนิน ( Thevenin’s Theorem ) มาใช้เป็นขั้นๆ ดังนี้
- ปลดโหลด RL ออกจากจุด A – B
- หาค่าแรงดันเทเวนิน VTH ซึ่งเป็นแรงดันระหว่างจุด A- B นั่นคือแรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อม ตัว ต้านทาน R2 นั่นเอง ดังแสดงในวงจรรูปที่ 2
รูปที่ 3
จากวงจรรูปที่ 3 พิจารณาเห็นว่า
แรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมตัวต้านทาน R2 เท่ากับกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวต้านทาน
R2 คูณด้วยค่าความต้านทาน R2 นั่นเอง
เมื่อ
จะได้แรงดันไฟฟ้าตกคร่อมตัวต้านทาน
ดังนั้นแรงดันเทเวนิน
- ลัดวงจรแหล่งจ่ายแรงดันหรือเปิดวงจรแหล่งจ่ายกระแสแล้วแต่กรณี
- หาค่าความต้านทานเทเวนิน RTH โดยมองเข้าไปที่จุด A- B ดังแสดงในรูปที่ 3
รูปที่ 4
จากวงจรรูปที่ 4 เมื่อมอง เข้าจุด A-B จะเห็นตัวต้านทาน R1 ขนานกับ R2 ได้ค่าความต้านทานเทเวนิน RTH ดังนี้
3. นำค่าแรงดันไฟฟ้าเทเวนิน VTH
และค่าความต้านทานเทเวนิน RTH มาเขียนวงจรสมมูลของเทเวนิน แล้วนำโหลด RL
ที่ปลดออกในตอนแรกมาต่ออีกครั้งหนึ่ง ดังแสดงในรูปที่ 5
เพื่อหาค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่าน RL ตามที่ต้องการ
รูปที่5
จากวงจรรูปที่ 5 จะคำนวณหาค่ากระแสไหลผ่าน RL ได้จากสูตร
ตัวอย่างที่ 1 จากวงจรรูปที่ 6 จงคำนวณหาค่า RTH ,VTH และ IL
รูปที่ 6
วิธีทำ 1.ปลด RL ออกจากวงจรแล้วหาค่าแรงดันเทเวนิน VTH ดังรูปที่ 7
รูปที่ 7
2.หาความต้านทานเทเวนินโดยลัดวงจร ( Short Circuit ) ที่แหล่งจ่ายแรงดัน E1 และ E2 ดังรูปที่ 8
รูปที่ 8
3.นำค่า VTH และ RTH
มาเขียนวงจรสมมูลของเทเวนิน (Thevenin Equivalent Circuits ) แล้วนำโหลด RL
ที่ปลดออกมาต่อ
ดังแสดงในรูปที่ 9
รูปที่ 9
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น